Steroid acne สิวสเตียรอยด์ ผิวติดสเตียรอยด์ หน้าติดสเตียรอยด์
ใช้ครีมหน้าขาวหน้าเด้ง เสี่ยง “หน้าติดสเตียรอยด์โดยไม่รู้ตัว”
สเตียรอยด์ (Steroid)
เป็นชื่อเรียกโดยย่อของกลุ่มยาที่มีชื่อเต็มว่า corticosteroid ยา กลุ่มนี้มีฤทธิ์และข้อบ่งใช้มากมาย สามารถใช้ในโรคหรือภาวะต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย“
ยากลุ่มนี้ถูกรู้จักมากที่สุด ในผลด้านลบ ทำให้หลายคนกลัวและปฏิเสธที่จะใช้ยากลุ่มนี้ แบ่งตามรูปแบบของการใช้ยา ได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.แบบใช้ภายนอก
2.แบบกินและฉีด
การใช้สเตียรอยด์ในขนาดน้อยๆ เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ มักไม่เกิดอาการแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียง แต่ถ้าใช้ยาในขนาดที่สูง หรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดผลเสียที่รุนแรงหลายประการด้วยกัน เช่น
- ติดเชื้อโรค
- เบาหวาน
- บวมและความดันโลหิตสูง
- กระดูกพรุน
- แผลในทางเดินอาหาร
- ผิวหนังเหี่ยวย่น บาง แตกลาย เป็นสิว หรือผื่น
- ตาเป็นต้อ
- ต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ
“ได้รับสเตียรอยด์โดยไม่รู้ตัว”
- ในอดีต ยาชุด ยาลูกกลอน ยาสูตรสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อ มักแอบผสมสเตียรอยด์
- ในปัจจุบัน สเตียรอยด์อาจถูกผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ ไม่ว่าจะเป็น เช่น สบู่ ครีมบำรุง ครีมหน้าใส หน้าขาว หน้าเด้ง ครีมกันแดด ยาแต้มสิว
“สเตียรอยด์ทำให้ผิวสวยใส แต่ชั่วคราว”
ผลลัพธ์ในช่วงแรกเป็นที่พึงปรารถนา คือ หน้าใส เนียน ขาว ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ แต่ผลลัพธ์นี้เกิดเพียงชั่วคราวจากกลไกของสเตียรอยด์ที่ออกฤทธิ์ คือ
- ลดการอักเสบ กดภูมิคุ้มกัน จึงทำให้สิวหรือผดผื่นหายไวมาก
- ทำให้หลอดเลือดที่มาเลี้ยงผิวหนังหดตัว ผิวจึงซีดขาว
- เมื่อเวลาผ่านไปสเตียรอยด์จะสะสมอยู่ในผิวหนัง หรือดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย หากใช้เป็นเวลานานหรือใช้ในความเข้มข้นที่สูง แล้วก่อให้ เกิดผลข้างเคียงได้ทุกรูปแบบตามมาจากที่กล่าวมาแล้ว
- เวลาในการแสดงอาการอาจ เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือบางรายก็เป็นปี
อาการของผิวติดสเตียรอยด์
- หน้าเป็นตุ่มแดง นูนขึ้นมา มักมีขนาดเท่าๆกัน
- ไม่มีหัวสิว หรือไขมันอยู่ในตุ่มที่ขึ้น
- ผิวหนังแพ้ง่ายมากๆ ใช้อะไรก็ไม่ได้
- มีผดผื่น หรือตุ่มแดงๆ เห่อขึ้นทั่วหน้า
- ผิวบางลงอย่างเห็นได้ชัด
- มีเส้นเลือดฝอยแดงที่หน้า
วิธีการรักษาผิวติดสเตียรอยด์
- วิธีการรักษาอาการติดสเตียรอยด์ที่ดีที่สุด ก็คือการเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสเตียรอยด์โดยทันที (ยกเว้นในคนทีต้องใช้สเตียรอยด์เพื่อรักษาโรคอื่นๆ )
- ร่วมกับการใช้ยาทาหรือกิน ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การหยุดใช้ครีมสเตียรอยด์ เป็นเรื่องท้าทาย
- การหยุดใช้ครีมสเตียรอยด์ จัดเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ต้องใช้ความกล้า ความอดทน และมีวินัยในการรักษา
- เพราะในช่วงแรกๆที่หยุดใช้ หน้าของเราจะมีตุ่มแดง ผดผื่นคัน หน้าแดง สิวเห่อเต็มหน้า
- โดยอาการเหล่านี้คงอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์หรือเดือน
ข้อควรรู้ เมื่อผิวติดสเตียรอยด์
- ผิวติดสเตียรอยด์จะอ่อนแอกว่าผิวทั่วไป ทำให้ทนการทายาสิวบางจำพวกไม่ได้ จึงไม่ควรซื้อยาหรือรักษาเอง
- ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
พฤติกรรมบางอย่างเพิ่มโอกาสผิวติดสเตียรอยด์ไม่รู้ตัว
- การฉีดสิว บ่อยๆ เสี่ยงผิวสเตียรอยด์ได้ โดยไม่รู้ตัว เนื่องจากยาที่ฉีดก็คือสเตียรอยด์นั่นเอง
จะรู้ได้อย่างไร? ว่าครีมที่ใช้มีสเตียรอยด์
- ใช้ชุดทดสอบ ทั้งนี้ตรวจสอบเฉพาะครีมที่ผสม dexamethasones หรือ prednisolone
- หรือวิธีสังเกตง่ายๆอีกวิธีคือ ครีมที่ใช้เห็นผลไวเกินไปและเมื่อลองหยุดใช้ เริ่มมีปัญหาสิวหรือผื่นตามมา
ส่งท้าย
- แม้ผิวติดสเตียรอยด์จะหายยาก แต่รักษาให้หายขาดได้
- ขอเพียงมีความกล้า ความอดทน และมีวินัย
- ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ประสบปัญหาผิวติดสเตียรอยด์ทุกท่าน
ด้วยความปรารถนาดีจาก พญ.ภชาภร คูสุวรรณ แพทย์ปริญญาโทผิวหนัง
กดติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ไลน์แอด @lorientasia (มี @ นำหน้า)
FACEBOOK FANPAGE: https://www.facebook.com/lorientasia/

สเตียรอยด์ (Steroid) เป็นชื่อเรียกโดยย่อของกลุ่มยาที่มีชื่อเต็มว่า corticosteroid ยา กลุ่มนี้มีฤทธิ์และข้อบ่งใช้มากมาย สามารถใช้ในโรคหรือภาวะต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย“

ยากลุ่มนี้ถูกรู้จักมากที่สุด ในผลด้านลบ ทำให้หลายคนกลัวและปฏิเสธที่จะใช้ยากลุ่มนี้ แบ่งตามรูปแบบของการใช้ยา ได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบใช้ภายนอก แบบกินและฉีด

การใช้สเตียรอยด์ในขนาดน้อยๆ เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ มักไม่เกิดอาการแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียง แต่ถ้าใช้ยาในขนาดที่สูง หรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดผลเสียที่รุนแรงหลายประการด้วยกัน เช่น ติดเชื้อโรค เบาหวาน บวมและความดันโลหิตสูง กระดูกพรุน แผลในทางเดินอาหาร ผิวหนังเหี่ยวย่น บาง แตกลาย เป็นสิว หรือผื่น ตาเป็นต้อ ต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ

ในปัจจุบัน สเตียรอยด์อาจถูกผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ ไม่ว่าจะเป็น เช่น สบู่ ครีมบำรุง ครีมหน้าใส หน้าขาว หน้าเด้ง ครีมกันแดด ยาแต้มสิว

ผลลัพธ์ในช่วงแรกเป็นที่พึงปรารถนา คือ หน้าใส เนียน ขาว ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ แต่ผลลัพธ์นี้เกิดเพียงชั่วคราวจากกลไกของสเตียรอยด์ที่ออกฤทธิ์ ลดการอักเสบ กดภูมิคุ้มกัน จึงทำให้สิวหรือผดผื่นหายไวมาก ทำให้หลอดเลือดที่มาเลี้ยงผิวหนังหดตัว ผิวจึงซีดขาว

เมื่อเวลาผ่านไปสเตียรอยด์จะสะสมอยู่ในผิวหนัง หรือดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย หากใช้เป็นเวลานานหรือใช้ในความเข้มข้นที่สูง แล้วก่อให้ เกิดผลข้างเคียงได้ทุกรูปแบบตามมาจากที่กล่าวมาแล้ว เวลาในการแสดงอาการอาจ เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือบางรายก็เป็นปี

อาการแสดง หน้าเป็นตุ่มแดง นูนขึ้นมา มักมีขนาดเท่าๆกัน ไม่มีหัวสิว หรือไขมันอยู่ในตุ่มที่ขึ้น ผิวหนังแพ้ง่ายมากๆ ใช้อะไรก็ไม่ได้ มีผดผื่น หรือตุ่มแดงๆ เห่อขึ้นทั่วหน้า ผิวบางลงอย่างเห็นได้ชัด มีเส้นเลือดฝอยแดงที่หน้า

วิธีการรักษาอาการติดสเตียรอยด์ที่ดีที่สุด ก็คือการเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสเตียรอยด์โดยทันที (ยกเว้นในคนทีต้องใช้สเตียรอยด์เพื่อรักษาโรคอื่นๆ ) ร่วมกับการใช้ยาทาหรือกิน ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การหยุดใช้ครีมสเตียรอยด์ จัดเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ต้องใช้ความกล้า ความอดทน และมีวินัยในการรักษา เพราะในช่วงแรกๆที่หยุดใช้ หน้าของเราจะมีตุ่มแดง ผดผื่นคัน หน้าแดง สิวเห่อเต็มหน้า โดยอาการเหล่านี้คงอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์หรือเดือน

ผิวติดสเตียรอยด์จะอ่อนแอกว่าผิวทั่วไป ทำให้ทนการทายาสิวบางจำพวกไม่ได้ จึงไม่ควรซื้อยาหรือรักษาเอง ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ใช้ชุดทดสอบ ทั้งนี้ตรวจสอบเฉพาะครีมที่ผสม dexamethasones หรือ prednisolone วิธีสังเกตง่ายๆอีกวิธีคือ ครีมที่ใช้เห็นผลไวเกินไป และเมื่อลองหยุดใช้ เริ่มมีปัญหาสิวหรือผื่นตามมา

แม้ผิวติดสเตียรอยด์จะหายยาก แต่รักษาให้หายขาดได้ ขอเพียงมีความกล้า ความอดทน และมีวินัย ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ประสบปัญหาผิวติดสเตียรอยด์ทุกท่าน ด้วยความปรารถนาดีจาก พญ.ภชาภร คูสุวรรณ แพทย์ปริญญาโทผิวหนัง
สงสัยต้องการสอบถาม – ปรึกษาปัญหาสุขภาพผิว โปรด แอดไลน์
@Lorientasia (มีเครื่องหมาย @ นำหน้านะคะ)
Pingback: ตอบคำถามสุขภาพผิว โดยทีมงาน ผู้เชี่ยวชาญ ลอต ลอเรียนท์
Pingback: ตอบคำถามสุขภาพผิว และ สุขภาพ ทั่วไป โดยทีมงาน ผู้เชี่ยวชาญ